การจัดการทีม ของ เดวิด มอยส์

และเคยเป็นอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีมเพรสตันนอร์ทเอนด์ ในลีกแชมเปียนชิปด้วย

มอยส์เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1963 ที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ เคยเป็นนักฟุตบอลในตำแหน่งกองหลัง สังกัดสโมสรต่าง ๆ ในสกอตแลนด์หลายแห่งเช่น เซลติก, เคมบริดจ์ยูไนเต็ด, บริสตอลซิตี เป็นต้น เคยเป็นทั้งผู้จัดการทีม และผู้เล่นของเปรสตันนอร์ธเอนด์ ในฤดูกาล 1998-99 ก่อนจะประกาศยุติการเล่นฟุตบอล เมื่อจบฤดูกาลดังกล่าว

มอยส์มีชื่อเสียงเมื่อเป็นผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตัน เป็นระยะเวลานานถึง 11 ปี ก่อนจะลาออกมาเป็นผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 โดยเข้าแทนที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งประกาศยุติการทำหน้าที่เมื่อจบฤดูกาล 2012-13 ในวันพุธที่ 8 พฤษภาคม ปีเดียวกัน หลังจากเป็นผู้จัดการทีมมานานถึง 26 ปีครึ่ง ทั้งนี้ มอยส์ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 ของผู้จัดการทีมชาวสกอต ซึ่งทำผลงานได้ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ รองจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และเคนนี แดลกลีช

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดภายใต้การคุมทีมของมอยส์ กลับทำผลงานได้ย่ำแย่ โดยเปิดฤดูกาลมา 6 นัดแรก แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเก็บคะแนนไปได้เพียง 7 คะแนน และอันดับตกไปอยู่ที่ 12 เป็นสถิติที่แย่ที่สุดในรอบ 24 ปีของสโมสร[2] โดยจากข้อมูลทางสถิติระบุว่า ในช่วงเวลาที่มอยส์คุมทีมเพียงครึ่งฤดูกาล เขาเสียคะแนนไปมากกว่า ส่วนที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเคยเสียจากทั้งฤดูกาล[3]

ในวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2014 บอร์ดบริหารของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ลงมติปลดมอยส์ออกจากตำแหน่ง หลังจากพาทีมไปแพ้เอฟเวอร์ตัน 0-2 ในรายการพรีเมียร์ลีก โดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอยู่ในอันดับที่ 7 ของตาราง และมีแนวโน้มว่าจะจบฤดูกาลด้วยอันดับนี้ ซึ่งจะทำให้ไม่ผ่านเข้าไปเล่นในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี เนื่องจากเหลือการแข่งขันอีก 4 นัดเท่านั้น โดยแต่งตั้งให้ไรอัน กิกส์ ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้จัดการทีมและผู้เล่น เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะจบฤดูกาล โดยฝ่ายบริหารสโมสรจะจ่ายค่าชดเชยอายุสัญญา ที่ยังคงเหลืออีก 5 ปี เป็นเงิน 10 ล้านปอนด์ เนื่องจากมอยส์เซ็นสัญญาไว้เป็นเวลา 6 ปี[4] ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปีของสโมสร ที่บอร์ดบริหารลงมติปลดผู้จัดการทีมออก อย่างกะทันหันเช่นนี้[5] แต่เอาเข้าจริงแล้ว ทางสโมสรจะจ่ายค่าชดเชยให้เพียงแค่ 5 ล้านปอนด์เท่ากับแค่ปีเดียวเท่านั้น เนื่องจากในสัญญาระบุว่าหากทำทีมเข้าไปเล่นในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกไม่ได้จะลาออก และมีการเปิดเผยอีกว่าเป็นเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั่นเองที่เป็นผู้แนะนำให้ผู้บริหารทีมปลดมอยส์ออก[6]

เรอัลโซเซียดัด

มอยส์ว่างงานนานอยู่ถึง 10 เดือน ก่อนที่ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ปีเดียวกันนั้น จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมเรอัลโซเซียดัด ในลาลิกา ของสเปน ด้วยสัญญา 18 เดือน แทนที่ ฆาโคบาร์ อาร์ราเซเต ผู้จัดการคนเก่าที่ถูกปลดออกเนื่องจากทำผลงานได้แย่มาก โดยชนะไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จากทั้งหมด 10 นัด[7] ซึ่งในการทำหน้าที่นัดที่ 18 มอยส์สามารถทำให้เรอัลโซเซียดัด เอาชนะทีมใหญ่อย่างบาร์เซโลนา ไปได้ 1-0 ประตู จากการทำเข้าประตูตัวเองของผู้เล่นบาร์เซโลนา ฌอร์ดี อัลบา ในนาทีที่ 2[8] ซึ่งมอยส์ได้นำพาทีมให้รอดพ้นจากการตกชั้นในฤดูกาลนี้ไปได้ ด้วยจบฤดูกาลที่อันดับ 12

แต่ในต้นเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2015 ทางผู้บริหารทีมเรอัลโซเซียดัดตัดสินใจปลดเดวิด มอยส์ ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากทำผลงานได้แย่ เมื่อทีมตกไปอยู่อันดับ 16 ซึ่งเป็นท้ายตารางคะแนน มีเพียง 9 คะแนน และผลงานในระยะหลัง 5 นัดหลังสุด ชนะเพียงนัดเดียว นอกนั้นแพ้ทั้งหมด [9]

ซันเดอร์แลนด์

ก่อนเปิดฤดูกาล 2016–17 มอยส์เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมซันเดอร์แลนด์ แทนที่ของแซม อัลลาร์ไดซ์ ที่ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ โยกไปคุมทีมชาติอังกฤษ[10] โดยจบฤดูกาลในอันดับที่ 20 ถูกลดชั้นลงไปเล่นใน อีเอฟแอลแชมเปียนชิป และ มอยส์ ได้ลาออกภายหลังสิ้นสุดฤดูกาล 1 วัน

เวสต์แฮมยูไนเต็ด

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2017 ทางสโมสรเวสต์แฮมยูไนเต็ด ได้ประกาศตั้งเดวิด มอยส์ เป็นผู้จัดการทีมด้วยสัญญา 6 เดือน เพื่อพาเวสต์แฮมยูไนเต็ดให้พ้นจากการตกชั้นใน ฤดูกาล 2017–18[11] โดยมอยส์สามารถช่วยให้เวสต์แฮมไม่ต้องตกชั้นโดยสิ้นสุดฤดูกาลในอันดับที่ 13 อย่างไรก็ตามเมื่อจบฤดูกาลทางสโมสรก็ไม่ต่อสัญญาทำให้มอยส์ต้องพ้นจากตำแหน่งผู้จัดการทีมไป

แหล่งที่มา

WikiPedia: เดวิด มอยส์ http://www.footkey.com/writeupDet/48/David-Amongst... http://www.imdb.com/name/nm1316713/ http://www.leaguemanagers.com/manager/profile.html... http://www.soccerbase.com/managers2.sd?managerid=1... http://www.soccerbase.com/players_details.sd?playe... http://www.youtube.com/watch?v=o-mMNAG3hNk http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsI... http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsI... http://www.manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsI... http://www.manager.co.th/sport/ViewNews.aspx?NewsI...